เมื่อร่างกายขาด สังกะสี zinc
ซิงก์เป็นสารอาหารที่ไม่ได้ให้พลังงาน แต่มีหน้าที่สำคัญในการกำกับควบคุมกระบวนการทำงานของร่างกาย ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เราจะสามารถพบซิงก์ได้ในเกือบจะทุกเซลล์ของร่างกาย เพราะซิงก์มีบทบาทสำคัญในการทำงานร่วมกับเอนไซม์ต่างๆ มากกว่า 300 ชนิด ดังนั้นแล้ว ซิงก์ จึงมีความสำคัญต่ออวัยวะทุกส่วนของร่างกายร่างกายของเราไม่สามารถสังเคราะห์สารอาหารชนิดนี้ขึ้นมาด้วยตัวเองได้ ถึงแม้ว่าซิงก์จะมีความสำคัญต่ออวัยวะทุกส่วน เราก็ควรจะเลือกรับในปริมาณที่เหมาะสม และสอดคล้องกับช่วงวัยของเรา เพื่อที่จะให้ร่างกายเกิดความสมดุล

ปริมาณซิงก์ที่เหมาะสมกับร่างกายในแต่ละช่วงวัย
อายุน้อยกว่า 1 ปี 3 – 5 มิลลิกรัม/วัน
อายุ 1 –10 ปี 10 มิลลิกรัม/วัน
อายุ 11 ปีขึ้นไป 15 มิลลิกรัม/วัน
สตรีในระยะตั้งครรภ์ 20 – 25 มิลลิกรัม/วัน
สตรีในระยะให้นมบุตร 25 – 30 มิลลิกรัม/วัน
ประโยชน์ของสังกะสี Zinc
- เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน: ช่วยในการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- การสมานแผล: ช่วยในการฟื้นฟูและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ทำให้แผลหายเร็วขึ้น
- เสริมสร้างการเจริญเติบโต: มีบทบาทสำคัญในกระบวนการเจริญเติบโตและพัฒนาการ โดยเฉพาะในวัยเด็กและวัยรุ่น
- รักษาสุขภาพผิว: ช่วยลดปัญหาสิวและปัญหาผิวหนังต่างๆ
- บำรุงการทำงานของสมอง: ช่วยในการพัฒนาความจำและการเรียนรู้
- การสังเคราะห์โปรตีนและ DNA: มีบทบาทในกระบวนการสร้างโปรตีนและสารพันธุกรรม
- ช่วยในระบบสืบพันธุ์: ในเพศชาย ช่วยเสริมสุขภาพของต่อมลูกหมากและการผลิตสเปิร์ม
เมื่อร่างกายขาดธาตุสังกะสี (Zinc) จะส่งผลกระทบ
- ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ: มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย เช่น หวัดหรือโรคติดเชื้อต่างๆ
- แผลหายช้า: การสมานแผลจะใช้เวลานานกว่าปกติ
- ปัญหาผิวหนัง: เกิดผื่นหรือสิว รวมถึงผิวหนังแห้งและลอก
- ผมร่วง: เส้นผมอ่อนแอและร่วงมากกว่าปกติ
- เบื่ออาหาร: การรับรสและกลิ่นอาจลดลง ทำให้เบื่ออาหารหรือมีน้ำหนักลด
- เจริญเติบโตช้า: โดยเฉพาะในเด็ก การขาด Zinc จะทำให้การเจริญเติบโตช้าลง
- ปัญหาด้านสมาธิและความจำ: การขาด Zinc อาจทำให้สมองทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้มีปัญหาด้านการเรียนรู้หรือความจำ
- อารมณ์แปรปรวน: อาจมีอาการหงุดหงิดหรือซึมเศร้าได้
หากมีอาการเหล่านี้ ควรได้รับการตรวจและปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีการเสริมธาตุสังกะสีอย่างเหมาะสม
สอบถามข้อมูลสุขภาพได้ที่นี่ >>>
![]()
