“แกมมา โอไรซานอล” สารธรรมชาติที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง

โดยมีที่มาจากคำว่า โอไรซาซัลทีวา (OryzaSaltiva) ซึ่งแปลว่า ข้าว เพราะโอไรซานอลพบมากในผิวของเมล็ดข้าวกล้องหรือที่เรียกว่า รำข้าวนั่นเอง จึงสามารถพบได้ในน้ำมันรำข้าวเท่านั้น โอไรซานอลเป็นสารที่มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับวิตามินอีในการต้านอนุมูลอิสระ และยังเป็นสายโซ่ธรรมชาติที่ดีในการป้องกัน การเกิดออกซิเดชั่น(Antioxidant) ของน้ำมันที่สำคัญ สารชนิดนี้สามารถป้องกันการออกซิเดชั่นของกรดไขมันอิ่มตัวได้ดีกว่าวิตามินอีกลุ่มโทโคฟีรอล และกลุ่มโทโคไตรอีนอล ซึ่งการเกิดออกซิเดชั่นนั้นเป็นสาเหตุของการเกิดสภาวะที่ผิดปกติในร่างกาย เช่น โรคมะเร็ง และโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือด นอกจากนั้นสารตัวนี้ยังมีคุณสมบัติช่วยลดคลอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL-C) ให้กับร่างกายอีกด้วย

คุณประโยชน์ของ แกมมา โอไรซานอล

  • เป็นตัวแอนตี้ออกซิแดนท์ (Antioxidant) คือสารต้านอนุมูลอิสระ ลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกายอันทำให้เกิดการแก่ก่อนวัย (Anti-aging) ช่วยป้องกันการเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์ผิดปกติ หรือที่เรียกว่า เซลล์มะเร็ง (Cancer)
  • มีความสามารถในการป้องการเซลล์ผิวจากการถูกทำลายด้วยแสงแดด
  • ยับยั้งการทำงานของ เอ็นไซม์ไทโรซิเนส ซึ่งเป็นตัวเร่งสร้างเม็ดสี จึงทำให้ผิวดูกระจ่างสดใสขึ้น
  • ลดระดับของไขมันในเลือด ลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจอุดตัน
  • เพิ่มการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน (Endophine Hormone) ช่วยผ่อนคลายความเครียดและหลับสบาย
  • กระตุ้นการหลังฮอร์โมนสำหรับการเจริญเติบโต (Growth Hormone)
  • ลดการสูญเสียแคลเซียม ทำให้ลดอัตราการเกิดโรคกระดูกพรุน

นอกจากนี้ยังมีการศึกษาถึงการช่วยรักษาอาการของสตรีในวัยหมดประจำเดือน ช่วยให้การทำงานของระบบประสาทที่ควบคุมน้ำย่อยทำงานได้เป็นปกติขึ้นในสตรีที่อยู่ในช่วงวัยหมดประจำเดือน ได้มีการสกัดเอาแต่เฉพาะสารแกมมาโอไรซานอลมาใช้ในทางการรักษาโรคบางชนิดมาตั้งนานแล้ว เช่น ในประเทศญี่ปุ่นได้สกัดเอาสารแกมมาโอไรซานอลมาใช้ในการรักษาตั้งแต่ปี 1962 เริ่มใช้รักษาในกรณีคนไข้ที่มีความวิตกกังวล  และต่อมาก็มีการใช้สำหรับสตรีในวัยหมดประจำเดือน และในปี 1980 ก็ค้นพบคุณสมบัติในการช่วยลดปริมาณคลอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ และใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่มีคลอเลสเตอรอลสูง แต่อย่างไรก็ดีการรับประทานเป็นยานั้นต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษกว่าในกรณีรับประทานจากอาหาร เนื่องด้วยอาจได้รับตัวยาในปริมาณสูงเกินไปอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ต้องอยู่ในความควบคุมของแพทย์

สอบถามข้อมูลสุขภาพได้ที่นี่ >>>

Loading