โรคกรดไหลย้อน อาการหลังทานอาหาร

อาหารหลายชนิดมีส่วนกระตุ้นให้เกิดอาการของกรดไหลย้อน เช่น เรอเปรี้ยว จุกเสียดบริเวณใต้ลิ้นปี่คล้ายอาหารไม่ย่อย และแสบร้อนกลางอก ซึ่งแต่ละคนอาจเกิดอาการที่แตกต่างกันหลังจากการรับประทานอาหาร

โรคกรดไหลย้อน ควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้

  • อาหารที่มีไขมันสูง : อาหารที่อุดมไปด้วยไขมันอาจทำให้หูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง (Lower Esophageal Sphincter) หย่อนตัวและปิดไม่สนิท ทำให้กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับมาที่หลอดอาหาร จึงก่อให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอกตามมา รวมทั้งอาหารที่มีไขมันสูงอาจกระตุ้นให้ร่างกายสร้างฮอร์โมนคอเลซิสโทไคนิน (CCK) ซึ่งทำให้หูรูดกระเพาะอาหารส่วนล่างคลายตัวได้อีกด้วย  
  • อาหารรสเผ็ดจัด : อาหารรสเผ็ดประกอบด้วยสารแคปไซซิน (Capsaicin) ซึ่งอาจทำให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ช้าลง ทำให้อาหารที่เรารับประทานค้างอยู่ในกระเพาะอาหารนานยิ่งขึ้น และอาจกระตุ้นให้เกิดภาวะกรดไหลย้อน นอกจากนี้ การรับประทานอาหารเผ็ดจัดอาจทำให้เยื่อบุหลอดอาหารเกิดการระคายเคืองมากขึ้น ผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อนจึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดจัด เพื่อป้องกันอาการแสบร้อนเมื่อเกิดกรดไหลย้อน
  • ผักผลไม้บางชนิด : ผักและผลไม้บางชนิด อย่างเช่น หอมใหญ่ กระเทียม มะเขือเทศ มะนาว ส้ม สับปะรด รวมทั้งผักผลไม้ดอง น้ำผักผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว และซอสมะเขือเทศ ถือเป็นอาหารที่มีความเป็นกรดสูง ทำให้เกิดแก๊สในทางเดินอาหาร จึงอาจทำให้ระบบย่อยอาหารเกิดการระคายเคืองและเกิดอาการของกรดไหลย้อนได้ง่าย
  • เครื่องดื่ม : เครื่องดื่มหลายชนิดอาจกระตุ้นให้เกิดอาการกรดไหลย้อน โดยเฉพาะโซดาและน้ำอัดลม ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่มีกรดสูง จึงอาจทำให้ท้องอืดและเกิดกรดไหลย้อนได้ง่าย และอาจทำให้หูรูดกระเพาะอาหารคลายตัวจนกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นมาที่หลอดอาหารได้  เช่นเดียวกับการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน อย่างชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และนมชนิดเต็มมันเนย (Whole Milk) ที่อาจส่งผลให้หูรูดกระเพาะอาหารคลายตัวลง อาจทำให้กระเพาะอาหารระคายเคือง และกระตุ้นให้บางคนเกิดอาการกรดไหลย้อน

สอบถามข้อมูลสุขภาพได้ที่นี่ >>>

Loading